สปส.โชว์ผลงานปี 2554 ลูกจ้างรับสิทธิฯ เพิ่ม ลั่นปี 2555 เน้นนโยบายสังคมและคุณภาพชีวิตด้านแรงงานที่ดีขึ้น
สำนักงานประกันสังคมแจงผลงานปี 54 ปรับสิทธิประโยชน์ให้ผู้ประกันตน 6 กรณีให้มากขึ้น เพื่อผู้ประกันตนสามารถเข้ารับการรักษาได้อย่างทั่วถึง และปรับปรุงแนวทางการขยายความคุ้มครองประกันสังคมสู่แรงงานนอกระบบ ย้ำทิศทางปี 55 เน้นดูแลลูกจ้าง ผู้ประกันตนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยในปัจจุบันมีผู้ประกันตน ที่อยู่ในความดูแลของ สำนักงานประกันสังคมจำนวน 10,409,288 คน สถานประกอบการ จำนวน 403,078 แห่ง โดยตั้งแต่ต้นปี 2554 ที่ผ่านมา สำนักงานประกันสังคมได้ดำเนินการเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ประกันตน ประกอบด้วย ดังนี้
1. เพิ่มค่าคลอดบุตรจากครั้งละ 12,000 บาท เป็น 13,000 บาทต่อครั้ง
2. เพิ่มค่าทันตกรรม กรณีถอนฟัน อุดฟัน และขูดหินปูน เดิมครั้งละไม่เกิน 250 บาท และไม่เกิน 500 บาทต่อปี เป็นครั้งละไม่เกิน 300 บาท และไม่เกิน 600 บาทต่อปี
3. เพิ่มสิทธิในการใส่รากฟันเทียม ให้กับผู้ประกันตนที่ประสบอุบัติเหตุ และสูญเสียฟันทั้งปาก หรือ ผู้ประกันตนที่มีอายุตั้งแต่ 53 ปีขึ้นไป และสูญเสียฟันทั้งปาก ซึ่งผู้ประกันตนต้องยื่นความจำนงขอรับสิทธิภายใน 90 วัน นับจากวันที่ประกาศมีผลบังคับใช้ โดยผู้ประกันตนเข้ารับการรักษาได้ในโรงพยาบาลโครงการรากฟันเทียม ซึ่งสถานพยาบาลจะเป็นผู้ขอรับค่าบริการทางการแพทย์ หลังจากสิ้นสุดการรักษาเท่าที่จ่ายจริงในอัตราไม่เกิน 16,000 บาท ต่อราก และไม่เกินรายละ 2 ราก
4. เพิ่มสิทธิในการรักษาโรคจิต ให้กับผู้ประกันตนที่เข้ารับบริการในสถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาลฯ
5. เพิ่มสิทธิการรักษาผู้ทุพพลภาพ กรณีเข้ารับบริการในสถานพยาบาลของรัฐ กรณีผู้ป่วยนอก จ่ายจริงตามความจำเป็น กรณีผู้ป่วยใน จ่ายค่าบริการทางการแพทย์ด้วยระบบ DRG และหากเข้ารับบริการ ในสถานพยาบาลเอกชน กรณีผู้ป่วยนอก เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 2,000 บาท/เดือน กรณีผู้ป่วยใน เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 4,000 บาท/เดือน และเหมาจ่ายค่าพาหนะเพื่อรับบริการทางการแพทย์ เดือนละ 500 บาท
6. เพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรจากรายละ 350 บาท เป็น 400 บาท
7. เพิ่มสิทธิประโยชน์บริการทางการแพทย์
-กรณีรักษาโรคมะเร็ง 7 ชนิด ได้แก่ โรคมะเร็งรังไข่ โรงมะเร็งปอด โรคมะเร็งเต้านม โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย โรคมะเร็งปากมดลูก โรคมะเร็งโพรงจมูก โรคมะเร็งหลอดอาหาร โดยให้การรักษาตาม Protocol ที่คณะกรรมการการแพทย์กำหนด
-การรักษาด้วยยา เคมีบำบัด รังสีรักษา นอกเหนือ Protocol ให้จ่ายค่ายารักษามะเร็ง ค่าเคมีบำบัด ค่ารังสีรักษาเท่าจ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท/ปี
-ยกราคาสูงตามประกาศคณะกรรมการแห่งชาติ
-เพิ่มกรณีโรคเรื้อรังที่ต้องรักษาตัวในสถานพยาบาล เกินกว่า 180 วันในหนึ่งปี
-ปรับปรุงสิทธิประโยชน์ กรณีให้ยา Erythropoietin
-เพิ่มกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินไม่จำกัดจำนวนครั้ง
-เพิ่มสิทธิประโยชน์ทันตกรรม กรณีฟันคุด และฟันเทียม
-ขยายสิทธิการได้รับยาต้านไวรัสเอดส์
-เพิ่มสิทธิประโยชน์ กรณีปลูกถ่ายไต สำหรับผู้เป็นไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายก่อนเป็นผู้ประกันตน
นอกจากนี้ ยังได้ออกพระราชบัญญัติการกลับเป็นผู้ประกันตน พ.ศ.2554 ซึ่งมีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 12 พ.ค.54 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่ขาดส่งเงินสมทบ จำนวน 389,418 คน สามารถกลับเข้าเป็นผู้ประกันตนได้อีก ทั้งนี้ ได้มีผู้กลับเข้าเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 แล้ว จำนวน 48,583 คน
ในปี 2555 นี้ สำนักงานประกันสังคม ปรับเพิ่มเหมาจ่ายค่ารักษาให้กับโรงพยาบาลที่ทำการรักษาผู้ประกันตนที่เจ็บ ป่วย ในอัตรา 1,446 บาทต่อคนต่อปี เริ่ม 1 ม.ค.55 เพื่อให้ผู้ประกันตนที่เจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง และมีค่ารักษาสูง มีทางเลือกเพิ่มขึ้น สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลอย่างมีคุณภาพและมาตรฐานมากยิ่งขึ้น และจากเหตุเกิดการณ์อุทกภัยครั้งร้ายแรงในปี 2554 นี้ สำนักงานประกันสังคมได้มีแนวทางการให้ความช่วยเหลือนายจ้าง/ผู้ประกันตนที่ ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัย โดยลดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคมแก่นายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน มาตรา 33 และมาตรา 39 เป็นระยะเวลา 1 ปี ในปี 2555 โดยลดอัตราเงินสมทบที่จ่ายในปัจจุบันฝ่ายละร้อยละ 5 ของค่าจ้างผู้ประกันตนดังนี้
ครึ่งปีแรก (1 ม.ค.-30 มิ.ย.55) จ่ายในอัตราฝ่ายละร้อยละ 3 ลดลงจากเดิม ฝ่ายละร้อยละ 2
ครึ่งปีหลัง (1 ก.ค.-31 ธ.ค.55) จ่ายในอัตราฝ่ายละร้อยละ 4 ลดลงจากเดิม ฝ่ายละร้อยละ 1
อย่างไรก็ตาม สำนักงานประกันสังคมกำหนดทิศทางการทำงานไว้ชัดเจน คือ เน้นที่จะให้ผู้ประกันตนทุกคนได้รับบริการและคุณภาพชีวิตที่ดีและสามารถเข้า รับการรักษาพยาบาลได้อย่างทั่วถึง