การนับวันทำงานจะมีปํญหาเฉพาะพนักงานรายเดือน ที่ไม่ได้เข้างานต้นเดือน เท่านั้น ตัวอย่างเช่น พนักงานเข้างาน 5 มกราคม (เดือน มค.มี 31 วัน) พนักงานเข้างาน 11 กุมภาพันธ์ (เดือน กพ.มี 28 วัน) ขอพูดถึงเฉพาะในส่วนของเงินเดือนอย่างเดียวนะครับ ไม่รวมถึงการคำนวณโอที โดยวิธีการคำนวณเงินเดือน จะมีอยู่ 3 วิธี คือ 1.ฐาน30วัน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ให้ถือเสมือนว่าเดือนหนึ่งมี 30 วัน (เนื่องจากกฎหมายแรงงานไม่ได้บัญญัติไว้) 2.ฐานตามจริง (นับวันทำงานจริง) เช่น เดือน มค.มี 31 วันก็ใช้ฐาน 31 วัน เดือน กพ.มี 28 วัน ก็ใช้ฐาน 28 วัน เดือน มิย.มี 30 วัน ก็ใช้ฐาน 30 วัน 3.วิธีตามกฎหมาย (ตามช้อ…
บทความบัญชี
ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมระหว่างบริษัทในเครือ
“อาจารย์ค่ะ หนูชื่อวิภารัตน์ เป็นเพื่อนของลูกศิษย์อาจารย์ที่เรียนที่ ม.รามคำแหงค่ะ หนูมีเรืองจะเรียนปรึกษาดังนี้ค่ะ บริษัทที่หนูทำงานอยู่ เป็นบริษัทมหาชน และได้เปิดบริษัท ในเครือขึ้นมาใหม่ ถือหุ้นบริษัทนี้ 100 % ณ ปัจจุบันนี้บริษัทก็เปิดมาแล้วประมาณ 8 เดือน และตอนนี้บริษัทที่เปิดใหม่ต้องการกู้ยืมเงินบริษัทมหาชนนี้ ไม่ทราบว่าบริษัทที่ให้กู้ยืมเงินต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะหรือไม่ อัตราดอกเบี้ยคิดอัตราตามธนาคารใช่หรือไม่ค่ะ ขอบคุณค่ะ” เรียน คุณวิภารัตน์ “Wiparat Jeab” กรมสรรพากรได้กำหนดแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับภาษีธุรกิจเฉพาะ กรณีบริษัทในเครือเดียวกันให้กู้ยืมเงินกันเอง ไว้ตามข้อ 2 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 26/2534 ดังนี้ “ข้อ 2 กรณีบริษัทในเครือเดียวกันให้กู้ยืมเงินกันเอง ไม่ว่าจะนำเงินของตนหรือนำเงินที่กู้ยืมจากบุคคลอื่นมาให้กู้ยืมในระหว่างกันเอง และไม่ว่าจะคิดดอกเบี้ยในอัตราเท่าใดก็ตาม ดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นจากการกู้ยืมเงินในกรณีเช่นนี้ ไม่ต้องนำมารวมคำนวณเป็นรายรับเพื่อเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ คำว่า “บริษัทในเครือเดียวกัน” หมายความว่า บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตั้งแต่สองนิติบุคคลขึ้นไปซึ่งมีความสัมพันธ์กันโดยบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลใดถือหุ้นหรือเป็นหุ้นส่วนอยู่ในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลอีกแห่งหนึ่งไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของหุ้นทั้งหมดที่มีสิทธิออกเสียงในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหกเดือนก่อนวันที่มีการกู้ยืม” ดังนั้น กรณีที่บริษัทมหาชนถือหุ้นในบริษัทในเครือเดียวกันทั้ง 100% เป็นเวลาถึง 8 เดือนแล้ว เมื่อกู้ยืมกันเองในระหว่างบริษัทในเครือเดียวกันจึงไม่ต้องนำดอกเบี้บที่ได้รับไปรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามข้อ 2 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่…
การรับรู้รายได้ตามสัญญาเช่าซื้อคอมพิวเตอร์
“อาจารย์ครับ ขอรบกวนสอบถาม ทางบริษัทฯ ทำธุรกิจซื้อมาขายไป ได้รับการติดต่อจากหน่วยงานราชการให้จัดหาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เพื่อให้ทางหน่วยงานราชการดังกล่าวเช่า มีระยะเวลา 12 เดือน โดยมีข้อกำหนดว่า 1. เมื่อเช่าครบกำหนด 12 เดือนแล้ว บริษัทฯ จะต้องยกอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ให้กับหน่วยงานราชการ 2. ทางหน่วยงานราชการให้ออกใบเสร็จรับเงินเป็นค่าเช่าอุปกรณ์ทุกเดือน ไม่ให้ออกขายครั้งเดียว 3. ไม่มีการทำสัญญาใดๆในการเช่าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ คำถาม 1. เมื่อบริษัทฯซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์เข้ามา จะต้องรับรู้เป็นสินค้า หรือรับรู้เป็นทรัพย์สินของบริษัทฯ 2. เมื่อบริษัทฯได้นำอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ไปให้หน่วยงานราชการเช่า จะต้องบันทึกบัญชีอย่างไร 3. เมื่อบริษัทฯได้นำอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ไปให้หน่วยงานราชการเช่า จะต้องแสดงรายการในการออกใบกำกับภาษีและใบเสร็จเงินอย่างไร 4. เมื่อบริษัทฯจะยกอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ให้หน่วยงานราชการ เมื่อเช่าครบกำหนด 12 เดือนแล้ว บริษัทฯจะบันทึกบัญชีอย่างไร 5. การปฏิบัติทางบัญชีตาม ข้อ 1 ถึง ข้อ 5 กับทางภาษี มีข้อปฏิบัติที่แตกต่างกันหรือไม่ ขอบคุณครับ ตามข้อเท็จจริงที่เล่าไป เข้าลักษณะเป็นสัญญาเช่าซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ตามมาตรา 572 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งบัญญัติว่า “อันว่าสัญญาเช่าซื้อ คือ…
การขายเครื่องจักรพร้อมติดตั้ง ไม่อยู่ในบังคับต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย
“เรียนท่านอาจารย์สุเทพ ที่เคารพ ดิฉันนางสาวพรพิมล ด้วงทอง ตำแหน่งนักตรวจสอบภาษีปฏิบัติการ มีปัญหาเกี่ยวกับภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีผู้มีสิทธิยื่นคำร้องขอคืนเงินภาษีอากร มาเรียนปรึกษาอาจารย์ ดังนี้ค่ะ ข้อเท็จจริง 1. บริษัท ก จำกัด (ผู้ซื้อ) ทำสัญญาซื้อขาย ชุดระบบลำเลียงกระ สอบระหว่างโกดัง กับบริษัท ข จำกัด (ผู้ขาย) ราคารวมทั้งสิ้น 7,700,000.00 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7 เท่ากับ 539,000.00 บาท รวมเป็นราคาสุทธิ 8,239,000.00 บาท ตกลงชำระค่าสินค้าเป็น 3 งวด ดังนี้ 1.1 งวดที่ 1 ร้อยละ 40 ในวันทำสัญญา เป็นเงิน 3,295,600.00 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) 1.2 งวดที่ 2 ร้อยละ 50 ในวันติดตั้งเครื่องชั่งหน้างาน เป็นเงิน 4,119,500.00…
ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการยกหนี้ให้ ถือเป็นรายได้ที่ต้องเสียภาษี
"เรียน ท่านอาจารย์สุเทพ หนูขอคำแนะนำในเรื่องภาษีดังนี้นะคะ บริษัทฯ จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในปี 2011 ในปีที่จัดตั้งบริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องในการจัดตั้งบริษัทฯ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่บริษัทฯ ได้ใช้บริการจากบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น และมีค่าใช้จ่ายบางรายการที่บริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นได้ทดรองจ่ายไปก่อน มีค่าใช้จ่ายต่างๆ ดังนี้ 1. ค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งบริษัทมีทั้งค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งบริษัทและค่าบริการในการจัดตั้งบริษัท ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้มีเอกสารครบถ้วนเป็นชื่อของบริษัทในไทย บริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นได้ทดรองจ่ายไปก่อน บริษัทฯ ได้นำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่ายครบถ้วน และได้ใช้ภาษีมูลค่าเพิ่มเรียบร้อยแล้ว ซึ่งบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น ส่ง Invoice มาเรียกเก็บเงินทดรองจ่ายเหล่านี้ 2. ค่าบริการในการบริหารจัดการที่ใช้บริการพนักงานหรือทีมงาน ข้อมูล จากบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น ที่มาช่วยในการบริหารจัดการงานต่าง ๆ ในช่วงเริ่มแรกในการจัดตั้งบริษัทฯ บริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นได้ส่ง Invoice มาเรียกเก็บ แสดงรายการที่ใช้บริการ 3. ค่าใช้บริการช่างเทคนิค ที่บริษัทแม่ส่งมาช่วยงานในช่วงเริ่มแรกในการติดตั้งเครื่องจักร ซึ่งบริษัแม่ที่ญี่ปุ่นส่ง Invoice มาเรียกเก็บเงิน ค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้ได้บันทึกบัญชีเป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมดในปี 2011 แต่เนื่องจากยังไม่ได้จ่าย จึงยังคงค้างจ่ายจนถึงปี 2013 บริษัทแม่ที่ญึ่ปุ่นมีนโยบายช่วยเหลือบริษัทในไทยด้วยว่าบริษัทในไทยเพิ่งเริ่มดำเนินกิจการ กระแสเงินสดยังไม่ดี จึงมีมติจากที่ประชุมผู้บริหารยกหนี้ในส่วนนี้ให้บริษัทในไทย โดยมีหนังสือจาก บริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นและมีผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อลงนามยกหนี้ให้…