ปกติแล้วการนับอายุงานต่อเนื่องกรมสรรพากรให้นับได้เฉพาะที่ทำงานสุดท้ายเท่านั้น แต่จากข้อหารือนี้ (ปี 2555) จะพบว่า การใช้สิทธิแยกยื่นเพื่อเสียภาษีสำหรับเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สามารถนับอายุงานต่อเนื่องได้ ให้นับอายุงานในบริษัทผู้โอนกับบริษัทผู้รับโอน (กรณีไม่มีการโอนเงินกองทุนจะไม่สามารถนับอายุงานต่อเนื่องได้) เลขที่หนังสือ : กค 0702/8892 วันที่ : 5 ตุลาคม 2555 เรื่อง : ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีการนับอายุงานสำหรับการคำนวณเพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากเงินที่นายจ้างจ่ายให้ครั้งเดียวเพราะเหตุออกจากงาน ข้อกฎหมาย : มาตรา 40(1) (2) มาตรา 48(5) และมาตรา 50(1) แห่งประมวลรัษฎากร ข้อหารือ 1. บริษัท เอ. (นายจ้าง) ซึ่งเป็นนายจ้างของกองทุนฯ มีข้อตกลงเกี่ยวกับการรับพนักงานชาวต่างชาติที่โอนมาจากบริษัทแม่ในต่างประเทศเข้ามาเป็นพนักงานของนายจ้าง โดยให้นับอายุงานที่พนักงานปฏิบัติงานมากับบริษัทแม่ในต่างประเทศต่อเนื่องกับอายุงานที่ทำกับนายจ้างเพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จากนายจ้างเสมือนพนักงานทั่วไป รวมถึงสวัสดิการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพด้วย แต่ไม่ได้โอนเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในต่างประเทศมายังกองทุนในประเทศไทย เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(สำนักงาน ก.ล.ต.) ในฐานะนายทะเบียนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ตีความว่า เงินที่จะโอนเข้ามายังกองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้นั้นต้องเป็นเงินที่โอนมาจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยเท่านั้นต่อมาพนักงานชาวต่างชาติดังกล่าวได้ลาออกจากงานหรือกลับไปปฏิบัติงานที่บริษัทแม่ในต่างประเทศโดยมีระยะเวลาปฏิบัติงานกับบริษัทนายจ้างในต่างประเทศเป็นเวลา 4 ปี และมีระยะเวลาปฏิบัติงานกับนายจ้างในประเทศไทยเป็นเวลา 2 ปี รวมระยะเวลาปฏิบัติงานกับนายจ้างทั้งสองแห่งต่อเนื่องกันเป็นเวลา…