คุณ Preeda Khempet ได้โพสต์จากบริเวณ Bangkok ไปยัง Suthep Pongpitak เมื่อ 16 ก.ค. 2556 ว่า "ขอเรียนถามท่านเรื่องรายจ่ายในการส่งลูกจ้างไปฝึกอบรมที่บริษัทจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ของบริษัทเป็นจำนวนร้อยละร้อยของรายจ่ายที่ได้จ่ายไปเป็นค่าใช้จ่ายในการส่งลูกจ้างของบริษัทเข้ารับการศึกษาหรืออบรม มี 3 กรณี 1. กรณีบริษัทฯ จ่ายค่าใช้จ่าย Training Fee: Senior Executive Program ให้กรรมการบริหารชาวต่างชาติ ระยะเวลาการอบรม 20 วัน จำนวนเงิน 519,000.00 บาท ให้กับสถาบันของรัฐที่เปิดสอนในระดับปริญญาโท 2. กรณีบริษัทฯ จ่ายค่าอบรม Directors Certification program ตามใบเสร็จรับเงิน ให้กรรมการบริหารชาวต่างชาติ จำนวน 115,500.00 บาท โดยจ่ายให้กับสมาคมในประเทศไทย 3. กรณีบริษัท จ่ายค่าใช่จ่าย Crestcom Bulletproof Manager Training ให้กับผู้จัดการทั่วไปของบริษัทฯ จำนวน 144,000.00…
Author: admin
เงินสนับสนุนจากการขายไม่อยู่ในข่ายต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีหัก ณ ที่จ่าย
คุณ Pu Boonkua ได้โพสต์ไปเมื่อ 15 ก.ค. 2556 ประมาณ 21 ชั่วโมงที่แล้ว ว่า "เรืยน ท่านอาจารย์ สุเทพ ดิฉันขอเรียนถามค่ะ บริษัทฯ ประกอบกิจการภัตตาคาร ขายอาหารและเครื่องดื่ม ปกติก็ได้รับเงินสนับสนุนการขายจากบริษัทผู้จำหน่ายเหล้า หรือไวน์ บริษัทฯ มีความประสงค์จะปรับปรุงร้านเพื่อดูดีขึ้น และคาดว่าจะเพิ่มยอดขายได้ บริษัทผู้จำหน่ายเหล้า/ไวน์ นั้นได้ให้เงินมาจำนวน 1 ล้านบาท เพื่อช่วยในการปรับปรุงร้าน อยากทราบว่า 1. บริษัทฯ ต้องนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ 2. กรณีนี้ถือเป็นเงินสนับสนุนการขายหรือไม่ ขอกราบขอพระคุณท่านอาจารย์เป็นอย่างยิ่งที่ช่วยตอบปัญหานี้ค่ะ" เรียน คุณ Pu Boonkua ตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 118/2545 เรื่อง การหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย และการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการจ่ายรางวัล ส่วนลดหรือประโยชน์ใด ๆ เนื่องจากการส่งเสริมการขาย ลงวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ….
ประกอบกิจการเป็นตัวแทนส่งออกสินค้าอยู่ในข่ายต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่
คุณ Peachana Pitaktigul ได้โพสต์ไปเมื่อ 15 ก.ค. 2556 ว่า "เรียนถามท่านสุเทพ เนื่องด้วยทางบริษัทประกอบธุรกิจเป็นตัวแทนในการส่งออก มีการรับรู้รายได้จากการเป็นตัวแทนส่งออก (มี VAT ด้วย) แต่ถ้าจะต้องการเพิ่มรายได้ของธุรกิจ โดยการจัดหาสินค้าเพื่อส่งออกให้กับลูกค้าชาวต่างชาติเท่านั่น โดยรายได้จะเท่ากับราคาสินค้าบวกค่าบริการ (คิดเป็น % ตามมูลค่าของสินค้า) ซึ่งมูลค่านี้จะเท่ากับยอดส่งออกตามใบขนขาออกคำถามมีดังนี้ 1) การรับรู้รายได้ดังกล่าวจะต้องมี VAT รึเปล่าค่ะ 2) หลักฐานในการรับรู้รายได้จะต้องมีเอกสารใดประกอบค่ะ 3) ส่วนค่าใช้จ่ายที่เป็นต้นทุนแยกออกเป็น2ประเภทคือ – ซื้อสินค้ากับผู้ประกอบการที่จดทะเบียน VAT ใบกำกับที่มีขอคืนได้ไหมค่ะ – ซื้อสินค้าจากบุคคลหรือร้านค้าทั่วไปมีแต่นามบัตรกับบิลเงินสดจะสามารถลงค่าใช่จ่ายได้รึเปล่าค่ะ ควรจะใช้หลักฐานใดได้บ้างเพื่อลงต้นทุน คำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจการด้านขนส่ง การขนส่งภายในประเทศเป็นธุรกิจได้รับยกเว้นVAT ถูกต้องใช่มั๊ยค่ะแต่ถ้าเป็นการขนส่งทางรถเพื่อส่งออกตามชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านจะถือว่าเป็นธุรกิจในอัตรา0 หรือยกเว้น VAT ค่ะ ขอขอบพระคุณอย่างสูงมาณ.ที่นี้ค่ะ" เรียน คุณ Peachana Pitaktigul ต่อคำถาม เกี่ยวกับการส่งออก 1. การส่งออกถือเป็นการประกอบกิจการ "ขายสินค้า" ที่อยู่ในข่ายที่ต้องเสียภาษีมูลค่า เพิ่ม ในอัตรา…
บริจาคเงินให้หน่วยงานที่ไม่ใช่องค์กรสาธรณะกุศลและได้ลงสื่อสิ่งพิมพ์?
คุณ Pensri Owat ได้โพสต์ไปเมื่อ 16 ก.ค. 2556 ว่า "เรียน อาจารย์สุเทพ รบกวนเรียนถามปัญหาอาจารย์ค่ะ เนื่องจากบริษัทได้รับจดหมายจาก สภาทนายความขอให้ร่วมสนับสนุนเพื่อพิมพ์และแปลหนังสือเพื่อแจกต่อหน่วยงานต่าง โดยจะพิมพ์ Logo ของบริษัทว่าเป็นผู้สนับสนุนโครงการในท้ายหนังสือ ซึ่งทางบริษัทได้ตรวจสอบดูแล้วว่าทาง สภาทนายความ ไม่ได้เป็นองค์กรสารธารณะกุศล และไม่มีโครงการจดโครงการดังกล่าวเป็นสาธารณะกุศลด้วย จึงเรียนปรึกษาอาจารย์ว่า 1. บริษัทคงไม่สามารถบันทึกเป็นค่าบริจาคการกุศลได้ แต่จะสามารถลงเป็นค่าโฆษณาได้หรือไม่ (มีการพิมพ์ Logo บริษัทในหนังสือที่แจก) 2. ถ้าได้ (บริษัทอยากสนับสนุนโครงการนี้ค่ะ) เราต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายสภาทนายความ โดยต้องเป็นภาษีออกให้ และภาษีนี้ถือเป็นค่าใช้จ่ายได้หรือไม่ค ขอบคุณอาจารย์ค่ะ" เรียน คุณ Pensri Owat 1. การให้ร่วมมือสนับสนุนเพื่อพิมพ์และแปลหนังสือของสภาทนายความเพื่อแจกต่อหน่วยงานต่าง โดยจะพิมพ์ Logo ของบริษัทว่าเป็นผู้สนับสนุนโครงการในท้ายหนังสือ นั้นถือเป็๋นราย จ่ายค่าโฆษณา มิใช่รายจ่ายค่าการกุศลสาธารณ เนื่องจากรายจ่ายค่าการกุศลสาธารณะต้องจ่ายโดยไม่หวังผลตอบแทน แต่ตามข้อเท็จจริงข้างต้น มีการพิมพ์เผยแพร่ Logo ของบริษัทว่าเป็นผู้สนับสนุนโครงการในท้ายหนังสือ จัดเป็นการกระทำที่หวังผลตอบแทน 2….
การขายทองคำและการนำเข้าทองคำ เสียภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างไร
โดยปกติการขายทองคำประเภททองรูปพรรณหรือมิใช่ทองรูปพรรณ หรือการนำเข้าทองคำ จะเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามปกติ กล่าวคือ กรณีผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มขายทองคำ ก็จะต้องเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ซื้อ หรือกรณีเป็นผู้นำเข้าทองคำ ก็จะเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยกรมศุลกากรเป็นผู้จัดเก็บ กฎหมายได้มียกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือมีการใช้ฐานภาษีที่นำมาคำนวณภาษีขายเมื่อขายทองคำแตกต่างไปบ้าง ดังนี้ ทองคำที่มิใช่ทองรูปพรรณ ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่มีความประสงค์จะได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าหรือการขาย ทองคำที่ยังมิได้ประกอบขึ้นเป็นทองรูปพรรณหรือของรูปพรรณ ทองคำจะต้องมีน้ำหนักเนื้อทองไม่น้อยกว่าร้อยละ 96.50 กรณีเป็น ผู้นำเข้าทองคำ จะต้องแสดงเอกสารหรือหลักฐาน เกี่ยวกับการนำเข้าต่อเจ้าพนักงานศุลกากร ในเวลายื่นใบขนสินค้า เพื่อผ่านพิธีการศุลกากร และจะต้องมีเอกสารหรือหลักฐานจากผู้ขายในต่างประเทศว่า ผู้นำเข้าเป็นผู้ซื้อทองคำดังกล่าวจากผู้ขายใน ต่างประเทศ กรณีเป็น ผู้ขายทองคำ จะต้องมีเอกสารหรือหลักฐานที่แสดงการเป็นสมาชิกของสมาคมที่เกี่ยวข้องกับ การค้าทองคำหรืออัญมณี สมาคมใดสมาคมหนึ่ง ท่านสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากพระราชกฤษฎีกา ฉบับที่ 311 ทอง รูปพรรณ เช่น สร้อยคอ แหวน ฯลฯ หากส่งออกก็จะเสียภาษีมูลค่าเพิ่มอัตราร้อยละ 0 แต่ถ้าขายในประเทศ โดยปกติจะใช้ราคาขายมาคิดคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มอัตราร้อยละ 7 แต่เนื่องจากมีร้านทองที่จำหน่ายทองคำโดยรับซื้อและขายกับบุคคลทั่วไป ขณะที่ซื้อจากคนทั่วไปที่นำทองคำมาขายหรือมาแลกเปลี่ยน ก็จะไม่มีใบกำกับภาษีซื้อ แต่เมื่อร้านทองขายออกไปก็จะเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม กฎหมายจึงได้กำหนดให้มูลค่าของทองรูปพรรณที่สมาคมค้าทองคำประกาศรับซื้อคืน ในวันที่ขายทองรูปพรรณ ไม่ต้องนำมารวมคำนวณเป็นมูลค่าฐานภาษี (ประกาศอธิบดีภาษีมูลค่าเพิ่ม ฉบับที่…